08 January 2008

โครงร่าง ที่ 1

ที่จริงผมถนัดเรียกว่าพิมพ์เขียวมากกว่า และผมจะเรียกว่าพิมพ์เขียวต่อไป เพียงแต่ขอทำความเข้าใจไว้ตรงนี้ว่า เมื่อผมพูดถึงพิมพ์เขียว ผมหมายถึงโครงร่างซึ่งประกอบด้วยโครงสร้างของตัวโปรแกรม CAI เอง และ Master Plan ที่ใช้นำทางจากเริ่มต้นกระทั่งปิดโครงการแบบเสร็จสมบูรณ์
..... ออกจะเป็นพิมพ์เขียวที่แปลกแยกจากนิยามทั่วไปบ้าง
ก็เลยต้องทำความเข้าใจกันเอาไว้ก่อน

เราจะเริ่มต้นการทำ CAI กันตรงนี้......
  1. Executive Summary เขียนสรุปความเกี่ยวกับ CAI ของคุณซักหนึ่งหรือสองย่อหน้า และไม่ควรเกินหนึ่งหน้ากระดาษ A4 คุณจะเลือกเขียนเป็นภาษาพูดหรือจะเลือกเขียนแบบภาษาวิชาการเหมือนการเขียนบทคัดย่อวิทยานิพนธ์ก็แล้วแต่อัธยาศัย ที่สำคัญ คือ เมื่ออ่าน ExSum คนอ่านควรจะจิตนาการเห็นภาพเดียวกับที่คนเขียนเห็น หรือใกล้เคียง
    ..... ถ้าคนเขียน ExSum เขียนด้วยภาพที่ชัดเจน ก็ไม่ต้องกังวลว่าคนอ่านจะไม่เห็นอะไร แต่ถ้าคนเขียนเขียนด้วยภาพพร่ามัว อนาคต CAI ชุดนี้คงไม่แจ่มชัดเท่าไหร่!!!
  2. Content Preview and Perspective เขียนโครงสร้างเนื้อหาใน CAI ให้เห็นโครงสร้างว่ามีเนื้อหาแบ่งเป็นบทเป็นตอนอย่างไร เรียงลำดับเนื้อหาจากเรื่องอะไร ต่อด้วยเรื่องอะไร
    ..... ส่วนใหญ่เราจะกำหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้เป็นโจทก์ในการ PrePer Content แต่ก็มีไม่น้อยที่ PrePer Content ด้วยทฤษฏีการเรียนรู้หรือจิตวิทยาการเรียนรู้ แต่แบบไหนก็ใช้ได้ครับ ให้ครบรายละเอียดทั้งหมดก็พอ
  3. Resource Collection ในส่วนของทรัพยากรอื่น ๆ ที่จะใช้ประกอบเนื้อหา ผมจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ
    - Content Resource จะเป็นทรัพยาการหลัก หรือเนื้อหลัก ตั้งแต่บทความ (Text content) เสียงบรรยาย (Sound Voice) ภาพประกอบ (Image) ภาพเคลื่อนไหว (Animation) วิดีโอ (Video) แบบฝึกหัด (Exercise) ตัวอย่าง (Example) สถานการณ์จำลอง (Demonstrate) เป็นต้น
    - Non-content Resource กลุ่มนี้จะเป็นทรัพยากรเพื่อเติมความสวยงาม ดึงดูดใจ ตื่นเต้น ทึ่ง หรือแม้แต่ทรัพยากรเพื่อสร้างกุศโลบายตรึงคนใช้ CAI ให้อยู่ชิ้นงานของเรา เช่น Flash Intro, Game, Cartoon เป็นต้น
    - Programming Resource ส่วนนี้เป็นทรัพยากรที่ต้องเตรียมไว้เพื่อการทำโปรแกรม เช่น ข้อความโต้ตอบระหว่างโปรแกรมกับผู้ใช้ ไอคอนของโปรแกรม ฐานข้อมูล Locked Fileหรือแม้แต่ช่องทางการสื่อสารจากคนใช้ CAI กับคนทำ CAI
  4. Peer Review เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่คุณคิดและเตรียมลงมือทำ ได้รับการตรวจสอบหรือวิพากวิจารณ์จากผู้รู้ ที่ปรึกษา หรืออย่างน้อยก็ควรเป็นใครซักคนที่ยินดีชี้แนะเราอย่างสร้างสรรค์ กับสิ่งที่เราจะทำ
    ..... เปิดใจให้กว้าง ไม่หาเหตุผลลบล้างทัศนที่เป็นลบตั้งแต่เริ่มแรก เพื่อข้ามคำติเตือน หรือสิ่งที่ Peer หาไม่พบในงานของเรา

เอาหล่ะ! เราน่าจะพร้อมจะหรับทำแผนการทำงานกันแล้ว

No comments: